![]() |
ยินดีต้อนรับ ( เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก )
![]() ![]() |
![]() |
![]()
โพสต์
#1
|
|
...ฅนค้น..ใคร... ![]() กลุ่ม : Root Admin โพสต์ : 3,362 เป็นสมาชิกเมื่อ : 18-Sep-06 หมายเลขสมาชิก : 1 ![]() ![]() ![]() |
"15 ปีที่ผ่านมา อะไรบ้างที่ทำให้ “ในหลวง” ทรงพระสำราญ""15 ปีมานี้ มีอะไร และใครบ้างที่ทำให้ท่านทรงสำราญ" แม้จะเป็นแค่เพียงคำพูด แต่เมื่อคนไทยทุกคน เมื่อได้ยินได้ฟังแล้ว คงจะต้องคิดกันให้หนักว่า ตลอดเวลา 15 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่สมเด็จย่าเสด็จสวรรคตนั้น มีใครบ้างที่ทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรานั้น ทรงมีความสุขพระทัยได้บ้าง "15ปีมานี่ 15ปีที่แล้วท่านทำพระหทัย เส้นเลือดมีแคลเซี่ยมเกาะ ก็เข้าไปทรงทำ บอลลูน ต้องเข้าไปเคาะเอาแคลเซี่ยมนี้ออกมา เมื่อเข้าไปเคาะเอาแคลเซี่ยมนี้ออกมา ท่านเจ็บมาก เจ็บเหมือนมีช้าง 10 เชือกเหยียบไปบนหน้าอก หลังจากนั้นปีนึง สมเด็จย่าสวรรคต สมเด็จย่าทรงดูแลพระเจ้าอยู่หัวมา เป็นทั้ง ขอพูดแบบสามัญชน เป็นทั้งพ่อ เป็นทั้งแม่ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าหัวมาตั้งแต่พระชนมายุ 1 ขวบ อันนี้ความเสียหายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รุนแรงแค่ไหน ไม่ต้องไปพรรณาเลย หลังจากนั้นก็ทรงมีกระดูกทับเส้นประสาท เทคโนโลยี่อาจจะไม่ดีนัก และความเสี่ยงสูงมาก ถ้าผ่าตัด อาจจะเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ ก็ทรงรอ จนในที่สุด ผมคิดว่าทรงทนไม่ได้แล้ว ก็เลยต้องทำ และทำแล้วถามว่า ณ.วันนี้เป็นยังไงบ้าง ดังนั้นผมถามว่ามีอะไรบ้างที่ทำให้พระองค์ทรงพระสำราญ และปีที่แล้วมีอะไรเกิดขึ้น พี่สาวองค์เดียว ที่มีในครอบครัว ก็หมดไป" จากคำกล่าวของหม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา ดิศกุล ผู้อำนวยการโครงการพัฒนาดอยตุงมูลนิธิโครงการแม่ฟ้าหลวง ได้ช่วยจุดประกาย ให้ค่ำคืนนี้ของเรา สำนักข่าว T-NEWS ได้ขอนำคำพูดของท่าน มาขยายความให้เป็นรูปธรรม ให้มากที่สุด เพื่อย้ำและเตือนสติคนไทยทุกคน เราเคยรู้หรือไม่ ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น พระองค์ท่าน ทรงต้องสะเทือนพระทัยมากน้อยแค่ไหน ตลอดช่วงระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา ย้อนกลับไปในปี 2538 คนไทยทั้งประเทศต้องใจหาย เมื่อสำนักพระราชวังออกแถลงการว่า สมเด็จย่า มีพระอาการพระหทัยกำเริบ ต้องเสด็จไปประทับรักษาพระองค์ ที่โรงพยาบาลศิริราช สิ่งที่คนไทยเราได้เห็นตอนนั้นก็คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จไปเฝ้าที่โรงพยาบาลทุกวัน ที่โรงพยาบาล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะประทับข้างแท่น ทรงกุมพระหัตถ์สมเด็จแม่ และรับสั่งเล่าเรื่องต่างๆให้สมเด็จแม่ฟังโดยตลอด ความรัก ความผูกพันของราชนิกูลมหิดลทั้งสี่พระองค์ ยิ่งใหญ่ เกินที่จะหาคำมาพรรณาได้ วันนี้รายการเจาะข่าวร้อนล้วงข่าวลึก ขอย้อนรำลึกถึงความผูกพันธ์ที่ยิ่งใหญ่นั้น จากภาพเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่หาชมได้ยาก เหตุการณ์บรรจุพระบรมอัฐิของพระบรมชนก เมื่อสิ้นพระบรมชนก สมเด็จกรมหลวงสงขลานครินทร์ สี่ชีวิตในราชสกุลมหิดล ก็อยู่ใต้ไออุ่นและความรักของย่า สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า แต่ความสุขในช่วงเยาว์วัยในวังสระปทุมของเจ้านายเล็กๆทั้ง 3 พระองค์และแม่ สมเด็จพระบรมราชชนนี ซึ่งในขณะนั้นดำรงพระยศเป็นเพียงหม่อมสังวาลย์ ก็ดำรงอยู่ได้ไม่นาน เมื่อเหตุการณ์ปฎิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ทำให้สมเด็จพระพันวัสสา ตัดสินพระทัยส่งพระนัดดาทั้ง3 ที่พระองค์รักยิ่งกว่าดวงใจ ไปพำนักรักษาพระองค์ที่ต่างประเทศ เรืออเมริกันเพรสซิเด็นท์เพียซ นำ 4 ชีวิตในราชสกุลมหิดลบ่ายหน้าออกจากแผ่นดินแม่ จุดหมายคือเมืองเล็กๆในสวิสเซอร์แลนด์ เมืองโลซาน ที่นั้นเอง ที่สมเด็จพระบรมราชชนนี ต้องทรงเป็นทั้งแม่และพ่อ ให้กับพระธิดาและพระโอรสทั้ง 2 พระองค์ ในขณะที่สมเด็จพระพันวัสสาที่ยังทรงเป็นกังวล เรื่องพระนัดดาเป็นที่สุดได้ตรัสถึงสมเด็จพระบรมราชชนนี ที่ต้องทรงแบกภาระอันหนักอึ้งในขณะนั้นว่า " บุญของฉัน มาได้ลูกสะใภ้เช่นนี้ บุญของหลานที่มีแม่ที่เลิศ ไม่มีใครจะมาดูถูกได้ว่าเลวทราม ฉันพูดนี้ปลื้มใจด้วยเศร้าใจด้วยจนน้ำตาไหล " ถ้อยคำต่อไปนี้ย่อมสะท้อนความรู้สึกที่สมเด็จย่าทรงมีต่อสมเด็จพระพี่นาง ในหลวงรัชกาลที่ 8 และ 9 ได้เป็นอย่างดีที่สุด " ลูกของหม่อมฉัน หม่อมฉันรักอย่างดวงใจ และหม่อมฉันมีความตั้งใจอยู่เสมอ ที่จะนำลูกไปในทางที่ถูกที่ดี สำหรับจะได้ประโยชน์แก่ตัวเอง ญาติและบ้านเมือง " ชีวิตของ 4 พระองค์ในต่างแดนเป็นชีวิตที่เรียบง่าย ทรงเป็นอยู่อย่างสามัญชน และมีความสุข ความสะดวกสบายตามสมควร สำหรับครอบครัวเล็กๆในราชสกุล ที่ไม่ได้อยู่ในสายแห่งการสืบสันตติวงศ์ แต่เป็นอีกครั้งที่ความสุขความรื่นรมย์ ที่ทุกพระองค์ได้รับก็มิอาจอยู่ได้นาน ภายหลังที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประกาศสละราชสมบัติ
|
|
|
![]() ![]() |
![]() |
ไม่มีภาพประกอบ | IPB Thai v1.236.Fx1: 6th December 2019 - 05:44 |